Posted on เมษายน 10, 2010 by krukaroon
การศึกษาในปัจจุบัน พ่อแม่ให้การสนับสนุนเต็มที่ รัฐบาลก้ลงมาโอบอุ้ม ถึงขั้นเรียนฟรีกันแล้ว นี่เป็นสิ่งยืนยันว่าในสังคมโลก การมีประชากรที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะการพัฒนาที่มีความสมดุลย์ระหว่าง กาย ใจและสมอง ย่อมทำให้สังคม ประเทศชาติ อยู่ร่วมกันอย่างสงบร่มเย็น สำหรับการศึกษาในประเทศไทยมองดูสภาพการณ์แล้วในความคิดส่วนตัว มีความเห็นว่าแข่งขันกันเสริมสร้างสมองกันมากมายเกินไป ลูก ๆ หลาน ๆ หรือนักเรียนเรียนพิเศษกันเป็นบ้าเป็นหลัง วันธรรมดาก็กลับบ้านสองทุ่มสามทุ่ม ในวันหยุด วันเสาร์ อาทิตย์ ก็เริ่มเรียน
กันแต่เช้า จนค่ำมืด ทำให้นักเรียนเกิดความเครียด กันเป็นส่วนใหญ่ การขัดเกลาและถ่ายทอดวัฒนธรรมกลับทำได้ลดน้อยถอยลง พฤติกรรมนักเรียนส่วนหนึ่งที่แสดงออกในโรงเรียนจึงไม่สู้ดี เช่น การทำลายทรัพย์สินของโรงเรียน การเสพยาเสพติด การมั่วสุมด้านชู้สาว การทะเลาะวิวาท การพูดคำหยาบคาย การขาดระเบียบวินัย ไม่ตรงต่อเวลา เหล่านี้เป็นต้น
อันที่จริงนักเรียนส่วนใหญ่ก็ยังมีพฤติกรรมดีอยู่ในระเบียบวินัย แต่นับวันยิ่งมีอาการน่าเป็นห่วงมากยิ่งขึ้น อยากให้นักเรียน
ได้มีความตั้งใจในวันและวัยที่อยู่ในช่วงอายุของวัยแห่งการศึกษา ถ้าเปรียบเทียบกับแนวทางการดำเนินชีวิตของคนอินเดีย ที่มี 4 ขั้นคือ พรหมจารี คฤหัสถ์ วนปรัสถ์ และสันยาสี นักเรียนคือวัยพรหมจรรย์หรือพรหมจารี อันเป็นวัยแห่งการศึกษาหาความรู้ จึงควรที่จะทำหน้าที่ศึกษาหาความรู้ให้จงดี เพื่อนำพาชีวิตเข้าสู่ คฤหัสถ์ เมื่อเรียนจบ นักเรียนก็แต่งงานแต่งการมีครอบครัว มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมที่สามารถยืนหยัดอยู่ในสังคมนี้ได้อย่างมั่นคง ต่อไป
Filed under: ไม่มีหมวดหมู่ | Leave a comment »
Posted on เมษายน 10, 2010 by krukaroon
Posted on เมษายน 9, 2010 by krukaroon
ต้องยอมรับว่า การเตรียมตัวก่อนสอบเป็นเรื่องค่อนข้าง
ยุ่งยาก เพราะไม่รู้ว่าแนวข้อสอบจะเป็นอย่างไร เน้นหนักเรื่อง
อะไรบ้าง คิดว่าพอเจอตัวข้อสอบเข้าจริง ๆ ปรากฎว่ายาก
มาก ๆ ประกอบกับโจทย์ในแต่ละข้อค่อนข้างยาว เวลาในการ
ทำข้อสอบ ไม่สมดุลย์ทำให้มีหลายคน ทำข้อสอบไม่ทัน
แต่คิดว่า แม้จะทำทันก็ยากที่จะสอบผ่านข้อสอบ โดยเฉพาะ
ฉบับที่ 1 สำหรับฉบับที่ 2 คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา ครูคงทำได้
แน่นอน
คราวนี้ก็คงต้องรอ การเข้ารับการอบรมเพิ่มสมรรถนะกัน
ล่ะครับ แต่ต้องยกนิ้วให้เลย สอบครูไม่รู้อ่านตรงไหน อ่านอะไร
ขอบเขตแค่ไหน มันยากจริง ๆ เด็ก ๆ ห้ามต่อว่าครูนะครับ
ว่าครูก็โง่เป็นเหมือนกัน เพราะไม่มีหนังสือแบบเรียนสมรรถนะ
ให้ครูเตรียมก่อนสอบนี้แหละ
โอเค…ฉบับที่ 1 ยากจริง ๆ คือลืมหมดแล้วครับ ก็ค่อย
ว่ากันต่อไป
Filed under: ไม่มีหมวดหมู่ | Leave a comment »
Posted on เมษายน 5, 2010 by krukaroon
Posted on เมษายน 5, 2010 by krukaroon

ตามที่ทราบกันแล้วว่าคุณครูจะมีการสอบวัดสมรรถนะกันในวันที่ 7-8 เมษายน 2553 นี้ ครูเราส่วนใหญ่ก็วิตกกังวลในเรื่องของแนวข้อสอบที่จะต้องเผชิญว่ามันจะออกมาในแนวทางใด เน้นเรื่องอะไรเป็นพิเศษ บ้างก็ว่าจะเน้นในเรื่องของการคิดวิเคราะห์ บ้างก็บอกว่าจะเน้นเรื่องเกี่ยวกับกฎระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับครู ก็คิดกันไปต่าง ๆ นานา แต่บางกลุ่มก็คิดแบบสนุก ๆ ว่าไม่เป็นไรสอบตก ก็จะได้ไปร่วมอบรมกัน อันนี้ก็คลายการวิตกกังวลไปได้ระดับหนึ่ง ถามว่าการสอบวัดสมรรถนะครูผู้สอนนี้ มีผลดีหรือไม่ ในประเด็นนี้ ก็คิดว่าดีเหมือนกัน ครูเราจะได้มีการตื่นตัว ศึกษา พัฒนาตนเอง มากขึ้น ไม่ย่ำอยู่บนความรู้เดิม ๆ ปีแล้วปีเล่า อันจะส่งผลดีต่อนักเรียน จะได้รับความรู้ดี ถูกต้อง และก้าวหน้า ทันสมัย
แต่นั่นแหละครูส่วนใหญ่ก็ประพฤติปฏิบัติกันอยู่เป็นปกติวิสัยอยู่แล้วในการคิด ศึกษา ค้นคว้า พัฒนาตนเอง เป็นการเพิ่มเติม มีแค่อยู่จำนวนหนึ่ง แต่ก็มีจำนวนหลายเหมือนกัน ที่ปฏิบัติหน้าที่ไม่คุ้มกับค่าเงินเดือนภาษีอากรประชาชน อาทิ ไม่มีคาบสอนเลย หรือบางคนมีคาบสอนแค่คาบสองคาบ แล้วปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ที่ผู้บริหารมอบหมาย อันที่จริงนโยบาย “คืนครูสู่ห้องเรียน” ได้มีผลในทางปฏิบัติแล้ว แต่ก็ยังมีโรงเรียนต่าง ๆ ที่ยังไม่ได้คืนครูสู่ห้องเรียน ที่ร้ายมาก ๆ ก็เห็นจะเป็นกลุ่มสาระที่ขาดกำลังครู ก็รับภาระสอนกันค่อนข้างหนัก เืมื่อภาระหนักเกินไป กำลังก็ไม่พอ ต้องขออัตราเพิ่ม แบบนี้บางทีแทนที่ให้ครูลอยหรือครูสองคาบสี่คาบได้ไปแก้ปัญหา บางทีโรงเรียนกลับไปจ้างครูอัตราจ้างเข้ามาแทน ทำให้เสียงบประมาณรายจ่ายไปโดยใช่เหตุ
ในประเด็นเหล่านี้เป็นการส่งผลร้ายต่อระบบการศึกษาของไทยเรามานาน ซ้ำร้ายยิ่งกว่า บางทีความก้าวหน้าในการเลื่อนขั้นครูส่วนน้อยพวกนี้ กลับได้รับการพิจารณาในระยะถี่ กว่าครูที่ประจำกลุ่มสาระที่ทำหน้าที่อย่างหนักอยู่ที่หมวดหรือกลุ่มสาระของตน อันนี้แหละกำลังใจของครูส่วนใหญ่ ที่มอง รู้ แลเห็น ความไม่ยุติธรรมเหล่านี้ มาทำให้ตนเกิดความรู้สึกท้อแท้ เลยทำให้เฉื่อยชาลง ยิ่งส่งผลร้ายต่อนักเรียนเพิ่มเข้าไปอีก พวกเราที่ผ่านการเรียนวิชาครูกันมา เราต่างมีศักดิ์ศรี มีอุดมการณ์ในความเป็นครู พอมาประสบพบกับสิ่งเหล่านี้ทำให้อุดมการณ์ถดถอย และเศร้าใจอยู่ในส่วนลึก
อยากฝากบรรดานักการศึกษา นักบริหาร ได้โปรดพินิจพิจารณา แก้ไขปัญหาใกล้ตัวนี้ให้ด้วย ส่วนการสอบวัดสมรรถนะพวกเราก็พร้อมและยอมรับกับผลการสอบที่ออกมาทุกประการ
Filed under: บทความจากครูผู้สอน | 1 Comment »